5 ข้อกังวล! เมื่อแผนประกันสุขภาพไม่ครอบคลุม
การเจ็บป่วยไม่ว่าเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่มักเป็นเรื่องไม่คาดคิด ไม่มีใครรู้ว่าความเจ็บป่วย โรคร้ายจะมาทักทายร่างกายเราเมื่อไหร่ บางคนดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เคยป่วย ไม่เคยลางาน แต่วันนึงกลับพบว่าตัวเองมีโรคคร้ายแอบแฝงอยู่ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้วางแผนทำประกันสุขภาพไว้อย่างเพียงพอ ความเสี่ยงเรื่องสุขภาพที่เกิดขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อเรามากมาย ทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่ไม่ครอบคลุม
- กังวลเรื่องค่ารักษา การเจ็บป่วยในแต่ละครั้งสร้างความไม่สบายกาย ไม่สบายใจอยู่แล้ว หากเรามีประกันสุขภาพ อาจพอช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้บ้าง แต่คงไม่ได้ทั้งหมด เพราะการรักษาในบางกรณี มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกจิปาถะ ที่ทำให้เราต้องคิดหนัก ทั้งที่จริงแล้วเราควรโฟกัสที่การรักษาตัวเองมากกว่า การทำประกันสุขภาพจะช่วยแบ่งเบา ไม่ต้องสำรองจ่ายทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาล
- ทางเลือกจำกัด เราจำเป็นต้องเลือกสิ่งที่สามารถจ่ายได้ในขณะนั้น ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดในการรักษาตัว เช่น กรณีมีค่าห้องและค่าอาหารต่อวันจำกัด อาจต้องเลือกรักษาที่โรงพยาบาลรัฐมากกว่าโรงพยาบาลเอกชน ในส่วนของวิธีการรักษานั้น ก็มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันด้วย เช่น การผ่าตัดแบบส่องกล้อง มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดแบบปกติ เป็นต้น หากเรามีประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพที่อย่างครอบคลุม ก็จะช่วยให้เราเลือกสิ่งที่ดีสุดให้กับตัวเองได้ในยามเจ็บป่วย
–
- จ่ายส่วนต่างเพิ่มอีกเพียบ
ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นทุกปี แต่วงเงินประกันสุขภาพของเรากลับเท่าเดิม มีหลายเคสที่วงเงินค่ารักษาผู้ป่วยนอกไม่เพียงพอ ทำให้ต้องจ่ายเงินส่วนต่างเพิ่ม ยังไม่รวมกรณีใช้ประกันจนเกินจำนวนครั้งที่กำหนดต่อปี ซึ่งทำให้การไปหาหมอครั้งต่อไป เราต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเองเต็มจำนวน สำหรับการเป็นผู้ป่วยใน กรณีต้องผ่าตัด และนอนโรงพยาบาล วงเงินความคุ้มครองที่มีอยู่นิดหน่อยมักไม่ครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมด บางคนต้องจ่ายเงินส่วนต่างเพิ่มหลักแสน - ขาดรายได้ในช่วงเจ็บป่วย
การพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพื่อให้หายจากอาการเจ็บป่วย ไม่สามารถไปทำงานได้ รายรับย่อมลดลง ในขณะที่รายจ่ายยังคงเดินทุกวัน ดังนั้น ในการวางแผนทำประกันสุขภาพจึงควรคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย - เงินออมหาย ได้หนี้เพิ่ม หากเรามีวงเงินประกันสุขภาพไม่เพียงพอ คือ เราต้องจ่ายเงินส่วนต่างค่ารักษาพยาบาลเพิ่ม และกรณีเจอบิลค่ารักษาพยาบาลหลักแสน อันดับแรกเรามักจะนำเงินออมที่สะสมไว้ออกมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล จนหมดเกลี้ยงบัญชี แต่ถ้าเงินก้อนนี้ยังไม่พอสำหรับค่ารักษาพยาบาล สถานีต่อไปคือการกู้ยืมเงินมาจ่าย แล้วค่อย ๆ ผ่อนใช้ ไหนจะดอกเบี้ยเที่เราต้องรับผิดชอบเพิ่มอีก เรียกว่าป่วยครั้งเดียวกระเป๋าแบนไปนานเลย
การทำประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพเป็นเรื่องของการวางแผนป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ช่วยให้เราหมดห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเงินพอจ่ายค่ารักษาแต่ละครั้งไหม ดังนั้น เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในอนาคต และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตเรา จึงควรเลือกประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพที่เหมาะสม มีความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายในท้องตลาด
อย่างไรก็ตาม หากมีความสนใจประกันชีวิตพร้อมความคุ้มครองสุขภาพแบบใหม่ ที่ไทยพาณิชย์ ร่วมกับบริษัทประกัน เปิดตัวประกันใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ด้วยแผนประกัน “OPD (คุ้ม) เงินอยู่ครบ จบหายห่วง” ที่ให้การดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) – ผู้ป่วยใน (IPD) รวมทั้ง ทำฟัน สายตา วัคซีน และตรวจสุขภาพประจำปี นอกจากนั้นมีค่าชดเชยรายวัน กรณีเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน และค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็น 3 โรคร้ายแรง(โรคมะเร็งระยะลุกลาม กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน) เพิ่มความคุ้มค่ากับแบบประกันชีวิตพร้อมความคุ้มครองสุขภาพใหม่ ด้วยการคืนเบี้ยทั้งหมด เมื่อครบสัญญา แม้จะเคลมค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชย หรือค่าเจ็บป่วยโรคร้ายแรง แล้วก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นกรมธรรม์ที่สามารถแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลให้คนในครอบครัวได้สูงสุดรวม 5 คน* (รวมผู้เอาประกันภัย) สำหรับแผน 3 แสนบาทขึ้นไป และหากไม่เคลมหรือใช้วงเงินค่ารักษาพยาบาลไม่หมด สามารถสะสมวงเงินค่ารักษาพยาบาลไปใช้ในปีถัดไปได้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ SCB ทุกสาขา พร้อมมีบริการใหม่ ‘Live Chat’ ที่ให้ความสะดวกแก่ลูกค้าสามารถคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่มีใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตได้ตลอด 24 ชั่วโมง